1. ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเรา คือ ตัวเอง
คนเราส่วนใหญ่มักนึกว่า คนที่ไม่ดีกับเราคือศัตรูของเรา แต่ว่าโดยความเป็นจริงแล้ว ศัตรูที่สำคัญที่สุดไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นที่ตัวเราเอง เพราะว่าศัตรูนอกกายเรามองเห็นได้ง่าย..ง่ายที่จะป้องกัน แต่สำหรับตัวเองแล้ว..ยากที่จะรู้จักตัวเองอย่างถ่องแท้ยากที่จะบังคับตัวเองได้ ตัวเราไม่สามารถจะห้ามกิเลสและความโลภได้ นิสัยความโกรธแค้นก็ไม่สามารถระงับได้ เลยกลายมาเป็นตัวเองเป็นศัตรูกับตัวเอง เที่ยวไปหาเรื่องและนำความเดือดร้อนมาใส่ตัว
2. โรคประจำตัวที่ร้ายแรงที่สุดของเรา คือ ความเห็นแก่ตัว
ร่างกายของคนเรามีเลือดเนื้อ ย่อมจะหลีกหนีไม่พ้นที่จะมีการแก่ ป่วย ตาย แต่ว่า..ความเจ็บป่วยในใจร้ายแรงกว่า ความเจ็บป่วยในใจคืออะไร?.. คือความเห็นแก่ตัว เพราะความเห็นแก่ตัวจึงทำให้มีจิตใจคับแคบ ดังนั้น นอกจากเราจะต้องดูแลรักษาสุขภาพไม่ให้เจ็บป่วยแล้ว ยังต้องรักษาความเห็นแก่ตัวในใจให้หายด้วย
3. สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดของคนเรา คือ ความไม่รู้
คนเราไม่ใช่ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง ไม่มีอำนาจวาสนา ไม่มีงานทำ แต่เป็นความไม่รู้ ไม่เข้าใจความเป็นจริงของโลก ไม่รู้ว่าสิ่งต่างๆในโลก ล้วนเกิดจากเหตุและปัจจัย ..มีเหตุต้นผลกรรม
4. สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของคนเรา คือ การมีมุมมองที่ผิด
คนเราเมื่อทำความผิดแล้ว หากเป็นความผิดพลาดเรื่องงาน ยังทำการแก้ไขได้ มุมมองที่ผิด ความคิดที่ผิด ไม่แต่..ไม่รู้จักแก้ไขให้ถูก แต่ยังคิดว่า..ตัวเองคิดถูกทำถูก นี่เป็นสิ่งที่คนในสังคมยุคปัจจุบันเป็นกันมากที่สุด เป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ
5. ความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ของคนเรา คือ ความเย่อหยิ่ง
ดังคำที่ว่า “ความอ่อนน้อมถ่อมตน มักจะนำผลประโยชน์มาให้ แต่ความเย่อหยิ่งจองหองมักจะนำโทษมาให้” คนเราไปไหน? หากนึกแต่ว่าตัวเองเก่ง ตัวเองเลอเลิศ ไม่ว่าจะไปที่ไหน? ย่อมไม่ได้การต้อนรับจากที่นั่น ดังนั้น ความเย่อหยิ่ง จองหอง จึงเป็นความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่
6. สิ่งที่ทำให้เราทุกข์กังวลที่สุดในชีวิต คือ กิเลส
มีคนบอกว่า..โลกของเราเต็มไปด้วยความทุกข์ เศร้า กังวล อะไรคือความทุกข์ที่สุดหรือ? บางคนบอกว่า ปากท้อง บางคนบอกว่า..ความรัก แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้เราทุกข์กังวลมากที่สุด คือ กิเลส ทรัพย์สินเงินทอง รูปร่างหน้าตา อาหารการกิน ลาภยศ วาสนา สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้เราอยากมี อยากเป็น เมื่ออยากได้ไม่รู้จักพอ ย่อมเกิดความทุกข์กังวล จึงเป็นเหตุให้เราทุกข์ไม่มีสิ้นสุด
7. สิ่งที่ทำให้เราไม่รู้ที่สุด คือ ความโกรธแค้น
ไม่รู้ คือ ความไม่เข้าใจในเหตุผลต่างๆ เมื่อประสบกับสิ่งที่ไม่สมหวังดังใจ ก็โกรธ เพ่งโทษผู้อื่น โกรธเคืองฟ้าดิน แม้แต่กับคนในครอบครัว สังคมหรือประเทศชาติ ขณะที่เคืองแค้นก็ขว้างปา ทำลายสิ่งของของตัวเอง นี่คือ ความไม่รู้ที่สุดของคนเรา ไม่เคยโทษตัวเอง ได้แต่โทษผู้อื่น
8. สิ่งที่คนเราเป็นห่วงกังวลที่สุด คือ ความเป็นความตาย
ยังมีชีวิตอยู่ก็ชิงดีชิงเด่น อยากมีชื่อเสียง กลั่นแกล้งผู้อื่น ครั้นเมื่ออนิจจังมาถึง..ก็กลัวหน้าที่การงาน ทรัพย์สมบัติความรัก จะหายไปในชั่วพริบตา ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็เป็นห่วงกังวลได้ทุกขณะ
9. ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเรา คือ การไปทำร้ายผู้อื่น
ทำลายชีวิตของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียง ขโมย หรือล่วงละเมิดทางเพศ หรือทำสิ่งไม่ดีต่างๆนานา
10. สิ่งที่ลำบากใจที่สุดในชีวิตของคนเรา คือ ถูกผิด
มีคนพูดว่า..อยู่ที่ไหนก็ต้องมีถูกผิด ถูกหรือผิด สร้างความลำบากใจให้เราได้ไม่มากก็น้อย ความถูกผิดมีได้ทุกที่ หากเราไม่ไปฟังเรื่องราวของผู้อื่น ก็ย่อมจะไม่เกิดอะไรขึ้นเพียงแต่เราไม่ไปฟังเรื่องราวของผู้อื่น ไม่ไปต่อความยาวสาวความยืดของผู้อื่น ก็ไม่ต้องนำความลำบากใจให้กับตนเอง จึงเป็นความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคนเรา
11. คุณธรรมอันดีงามที่สุดของคนเรา คือ ความเมตตา
ความดีงามของคนเราไม่ได้อยู่ที่ความสวยงาม การมีทรัพย์สินมากมาย มีความสามารถล้นเหลือ ดังนั้น ยอมที่จะเป็นคนไม่มีความสามารถอะไร ไม่มีการศึกษา แต่จะไม่ยอมให้ขาดความเมตตาเพราะความเมตตา คือ..คุณธรรมอันแท้จริง
12. ความกล้าหาญที่สุดของคนเรา คือ กล้ายอมรับผิด
คนเราต้องมีความกล้า ความกล้าไม่ใช่กล้าชกต่อยกับผู้อื่น และก็ไม่ใช่ไปชิงดีชิงเด่นกับผู้อื่น เอาชนะคะคานกับผู้อื่นแต่เป็นการรู้สำนึกว่า..บางสิ่งตัวเองไม่ควรพูด ไม่ควรทำอย่างนั้น ไม่ควรไปขัดขวางอย่างนี้ คนที่สามารถรู้สำนึกว่า..ตัวเองผิดจึงจะเป็นผู้กล้าหาญที่สุด
13. รายรับที่มากที่สุดของคนเรา คือ ความรู้จักพอ
ทุกๆคนก็หวังแต่จะให้ตัวเองได้ ตัวเองประสบผลสำเร็จ ได้รับผลประโยชน์ หากไม่รู้จักพอแม้จะนอนอยู่บนวิมาน กับเหมือนว่านอนอยู่ในนรก หากรู้จักพอ..อยู่ในนรกก็เหมือนกับอยู่บนวิมาน ดังนั้น ความรู้จักพอจึงเป็นรายรับที่มากที่สุด
14. การบุกเบิกทรัพยากรที่มีอยู่ของตัวเองที่มีค่ามากที่สุด คือความศรัทธา
ใครๆก็พูดกันว่า ต้องบุกเบิกทรัพยากรมาใช้ ทรัพยากรนั้นไม่ได้หมายถึง สินแร่ในป่า สิ่งล้ำค่าในทะเล และก็ไม่ใช่ก๊าซธรรมชาติ แต่ในความศรัทธา..มีทรัพย์สิน มีคุณธรรม มีสิ่งล้ำค่า
15. สิ่งที่คนเราควรมีให้มากที่สุด คือ ความรู้สำนึกในบุญคุณของผู้อื่น
คนประเภทไหนร่ำรวยที่สุด คนประเภทไหนยากจนที่สุด คนยากจน คือ คนที่อยากจะได้อยู่ร่ำไป คนมั่งมี คือ คนที่มีแต่ความรู้สึกขอบคุณและคิดแต่จะเจือจานช่วยเหลือผู้อื่น ดังนั้น ผู้ที่มีความรู้สึกสำนึกในบุญคุณ ถนอมสิ่งที่ตนมีอยู่ จึงเป็นผู้ที่มีมากที่สุด
16 . สิ่งที่ควรบ่มเพาะให้มีมากที่สุด คือ ความใจกว้าง
ทุกคนก็หวังจะให้ตัวเองเป็นผู้มีการศึกษาอบรม ดังมีคำกล่าวว่า “ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความนุ่มนวล แต่จะต้องเคร่งครัดต่อตัวเอง” คนอื่นจะปฏิบัติต่อเราดีหรือไม่ เราก็สามารถเข้าใจและยอมรับได้ นี่คือ..สิ่งที่ควรบ่มเพาะให้มีมากที่สุด
17. ต้นทุนที่มากที่สุดของคนเรา คือ ศักดิ์ศรี
คนจะเป็นคนได้ต้องมีศักดิ์ศรี ก็เพราะว่าคนเรามีศักดิ์ศรี ด้วยเหตุนี้อะไรก็เสียสละได้ แต่ว่าเมื่อผ่านการบีบคั้นของ ความเสียสละก็ยังคงเหลือศักดิ์ศรีไว้ ดังนั้น สำหรับศักดิ์ศรีความเป็นคนของทุกคนจึงต้องให้ความสำคัญและรักษามันไว้
18. ความปลื้มปีติที่มากที่สุดของคนเรา คือ ความสุขจากรสพระธรรม
คนส่วนใหญ่มักจะหาความสุขจากสิ่งล่อที่เป็นกิเลสและวัตถุ เช่น จากคำชมเชยเพียงคำเดียวก็เป็นปลื้มไปเสียครึ่งวัน แต่ความสุขจากคำชมเชยเดี๋ยวเดียวก็ผ่านไปแล้ว ความสุขที่ได้จากการมีทรัพย์สิน แต่ว่าทรัพย์สินก็เหมือนสายน้ำไหลชั่วประเดี๋ยวก็ใช้หมดแล้ว ความสุขที่ได้จากการท่องเที่ยวจะพันลี้หมื่นลี้กระพริบตาเดียวความสุขก็ผ่านไป หากแต่มีความปลื้มปีติเพียงสิ่งเดียวที่จะยังอยู่ตลอดไป คือ ความสุขจากรสพระธรรม ปีติสุขจากธัมมะได้จากปัญญา ตัวรู้และการภาวนา เป็นสิ่งที่สามารถมีได้ตลอดชีวิต ไม่สูญสลายตลอดไป
19. ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเรา คือ ความปลอดภัย
ทรัพย์สินเงินทองและเกียรติยศ เป็นสิ่งที่คนปรารถนาอยากมีมากที่สุด แต่ว่าเมื่อได้ทรัพย์สินและชื่อเสียงแล้วก็ขาดความปลอดภัย ชีวิตอย่างนี้ย่อมไม่มีความหมาย ดังที่กล่าวว่า..ความปลอดภัย สงบสุข คือวาสนา
20 . สิ่งที่ควรจะสร้างให้มีมากที่สุด คือ ประโยชน์สุขของมวลชน
ประโยชน์สุขของมวลชนได้จากเมตตาจิต ความมีน้ำใจที่ดีงาม เช่น พูดในสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับทุกคน ทำในสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับทุกคน จะสร้างถนนหรือสร้างสะพาน ขอเพียงให้เป็นประโยชน์กับทุกคน ตัวเองก็ยินดีที่จะเสียสละแรงงานและแรงใจที่จะไปช่วย