ต้องย้ำว่า เวลานี้เรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้น ประชาชนเป็นผู้ปกครอง หรือเป็นเจ้าของอำนาจในการปกครอง ดังนั้น ประชาชนแต่ละคนจึงต้องเป็นธรรมาธิปไตย คือถือธรรมเป็นใหญ่ หมายความว่า ถือความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม ถือหลักการและกฎกติกาเป็นใหญ่ เมื่อคนเป็นธรรมาธิปไตย สังคมจึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ และระบอบประชาธิปไตยจึงจะสำเร็จ ทำอย่างไรจึงจะให้คนไทยเป็นธรรมาธิปไตย เพราะปัจจุบันนี้สังคมไทยยังหาคนที่เป็นธรรมาธิปไตยได้ยาก คือ ยังมัวหวังพึ่งเทพเจ้าหรือสิ่งดลบันดาลภายนอกทั้งหลาย ยังไม่มั่นใจในธรรม
คนไทยต้องเป็นไท ซึ่งแปลว่า อิสระ คือเป็นใหญ่ในตัวเอง ไทยจะเป็นไทได้ไทยต้องชูธรรม ถ้าไทยชูธรรมไทยจะเป็นไทได้แท้จริง หากไทยไม่ชูธรรม ไทยก็อาจจะกลายเป็นทาส อย่างน้อยก็เป็นทาสทางวัฒนธรรม เป็นทาสที่รอรับความช่วยเหลือ เป็นทาสในระบบแข่งขัน เป็นทาสทางเศรษฐกิจ เป็นทาสของผู้ผลิต โดยเป็นนักบริโภค ที่ต้องถูกเขาบันดาล ต้องถูกเขากำหนด ไทยก็จะไม่เป็นอิสระแท้จริง
ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องมีความชัดเจนในหลักการของพระพุทธศาสนา ถ้าเป็นพุทธศาสนิกชนจะต้องถือธรรมเป็นใหญ่ พระพุทธเจ้าเองก็ทรงถือธรรมเป็นใหญ่ ไม่มีอะไรใหญ่กว่าธรรม
คนที่ถือธรรมเป็นใหญ่ คือ เป็นธรรมาธิปไตยนั้น มีลักษณะสำคัญ คือ
ใน 4 ข้อนี้ ข้อสุดท้ายเป็นตัวตัดสินความเป็นธรรมาธิปไตย แต่ในการปฏิบัติ จะขาด 3 ข้อแรกก็ไม่ได้ ต้องมีไว้ครบทั้งหมด
ในการพัฒนาสังคมไทยตามหลักพระพุทธศาสนา ขอสรุปจุดเน้นที่การพัฒนาคนให้มีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้
1. ถือหลักทำการให้สำเร็จด้วยความเพียรพยายาม ที่เรียกว่า หลักกรรม
2. ถือหลักเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนาชีวิตให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยไป ทั้งทางพฤติกรรม ทางจิตใจ และทางปัญญา ที่เรียกว่า หลักไตรสิกขา
3. ถือหลักทำการทั้งหลายอย่างเร่งรัดไม่รอเวลาด้วยความไม่ประมาท ที่เรียกว่า หลักอัปปมาทะ
4. ถือหลักทำตนให้เป็นที่พึ่งเพื่อพึ่งตนเองได้และเป็นอิสระ ที่เรียกว่า หลักอิสรภาพแห่งการพึ่งตนได้
หลักการดังกล่าวมานี้ ชาวพุทธต้องถือปฏิบัติอย่างจริงจังมั่นคง และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในสังคมต้องพยายามช่วยกันแก้ปัญหา การช่วยกันแก้ปัญหาจะทำให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้นมาเอง